Greetings หลากวิธีทักทายเป็นภาษาอังกฤษให้เหมือนเจ้าของภาษา

Greetings

หลากวิธีทักทายเป็นภาษาอังกฤษให้เหมือนเจ้าของภาษา

เมื่อพูดถึงการ “ทักทายเป็นภาษาอังกฤษ” คนไทยส่วนใหญ่ก็คงนึกถึงแต่ “Hello”, “How are you?” เพราะเป็นประโยคที่ครูภาษาอังกฤษสอนมาตั้งแต่ชั้นประถม ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นประโยคที่น่าเบื่อและเชยสุดๆ ในความเป็นจริงแล้ว ประโยคที่เจ้าของภาษาใช้ในการทักทายนั้นมีหลากหลายกว่านั้นมาก

ทำไมเราจึงต้องเรียนรู้คำทักทาย?

การทักทายเป็นสิ่งสำคัญในการติดต่อสื่อสาร การจะเริ่มบทสนทนากับใครสักคน เราต้องมีการทักทายกันเพื่อเป็นการเปิดบทสนทนา และการที่จะทำให้ใครสักคนพูดคุยกับเราได้อย่างออกรสออกชาติ จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องสร้างความประทับใจให้กับคู่สนทนา ซึ่งคำทักทายที่ดีและถูกต้องก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยสร้างความประทับใจได้อย่างดีเยี่ยม

วันนี้เราจึงได้รวบรวมคำทักทายภาษาอังกฤษใหม่ๆ ที่อาจไม่เคยมีสอนในห้องเรียนมาให้ทุกคนได้เรียนรู้กัน จะได้นำไปฝึกพูดให้เป๊ะเหมือนเจ้าของภาษา ต่อไปนี้ก็ลืม “กู๊ดมอร์นิ่ง ทีเชอร์, ฮาวอาร์ยู, แอมไฟน์ แต้งกิ้ว แอนด์ยู?” ไปได้เลย!

คำทักทายในสถานการณ์ที่ค่อนข้างเป็นทางการ (Formal)

ใช้ในการทักทายเพื่อนที่ไม่ค่อยสนิทหรือผู้ที่มีอายุมากกว่า เช่น

Hello / Good morning / Good afternoon / Good evening. = สวัสดี / สวัสดีตอนเช้า /สวัสดีตอนบ่าย / สวัสดีตอนเย็น

ถ้าเราอยากถามสารทุกข์ดิบของคู่สนทนาว่า “เป็นยังไงบ้างคะ/ครับ สบายดีไหม” ก็จะถามว่า

How are you?

How are you doing?

How do you do?

และเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ต้องทำความรู้จักใครเป็นครั้งแรก อย่าลืมนำประโยคนี้ไปใช้กันนะ

Nice to meet you / Pleased to meet you. = ยินดีที่ได้รู้จัก

ยกตัวอย่างเช่น

Tom : Hello. I’m Tom. I’m the manager here. Nice to meet you / Pleased to meet you.

Tom : สวัสดีครับ ผมชื่อทอม เป็นผู้จัดการของที่นี่ ยินดีที่ได้รู้จักครับ

Ben : Hello, Tom. I’m Ben. Nice to meet you too/ Pleased to meet you too. I would like to discuss with you some issues that I mentioned in my email last week.

Ben : สวัสดีครับคุณทอม ผมชื่อเบ็น ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน ผมอยากจะปรึกษาปัญหาที่ผมได้พูดถึงในอีเมลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกับคุณหน่อยนะครับ

ประโยคด้านบนอาจจะคุ้นหูกันมาบ้างเพราะทุกโรงเรียนต้องสอนอย่างแน่นอน แต่ประโยคต่อไปนี้อาจฟังดูแปลกใหม่สำหรับบางคน ไปดูกันเลยค่ะ

คำทักทายในสถานการณ์ที่ไม่เป็นทางการ (Informal)

ใช้ในการทักทายเพื่อน/คนรู้จักที่ค่อนข้างสนิทสนมอยู่แล้ว เช่น

Hey. / Hi. = ไง / หวัดดี

How is it going? = (ชีวิต) เป็นไงบ้าง?

“it” ในที่นี้หมายถึง สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา

How are you? / How are you doing? = (คุณ)เป็นไงบ้าง?

อย่าสับสนกับ “What are you doing?” นะคะ อันนั้นจะแปลว่า “ทำอะไรอยู่เหรอ” และจะเห็นว่า “How are you?” และ “How are you doing?” ใช้ได้ทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการ

What’s going on? / What’s up? / What’s new?

สามประโยคนี้ก็จะแปลคล้ายๆ กันประมาณว่า “ตอนนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง, มีอะไรใหม่ๆ มาอัพเดทบ้าง” คนส่วนใหญ่ก็จะตอบว่า “Nothing / Nothing much / Not much / Not a lot / Just same old same old / Just the usual.” ก็คือไม่มีอะไรมาก ก็เหมือนเดิม แต่ถ้ารู้สึกอยากจะชวนคู่สนทนาคุย เราก็อาจจะบอกเขาว่าตอนนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้างหรือเรากำลังทำอะไรอยู่ แล้วถามคู่สนทนากลับว่า “What about you?” เพื่อเป็นการถามกลับและชวนคุย

ตัวอย่างเช่น

Tom : Hey, What’s up?

Tom : เฮ้ยหวัดดี เป็นไงมั่ง?

Scott : Not much, just studying for the exam. What about you?

Scott : ก็ไม่ไรมาก ช่วงนี้อ่านหนังสือสอบ นายอ่ะ?

Tom : Luckily, I don’t care much about the exam. So I’m just chilling.

Tom : โชคดีที่ชั้นไม่ค่อยแคร์เรื่องสอบเท่าไหร่ ก็เลยชิลสุดๆ

ในบางครั้งการถามว่า What’s up? คนถามอาจไม่ต้องการคำตอบเลยก็ได้ เขาเพียงแค่ใช้What’s up? แทน Hello. หรือ Hi. เท่านั้น ดังนั้น เราจึงสามารถตอบกลับไปว่า What’s up?หรือ Hey! / Hi! ได้เลย

How’s everything? / How are things? / How’s life? = (ทุกสิ่งทุกอย่าง/ชีวิต)เป็นไงบ้าง?

How’s your day? / How’s your day going? / How was your day? = (วันนี้)เป็นไงบ้าง?

How have you been? = (ไม่ได้เจอกันตั้งนาน)เธอเป็นไงบ้าง?

ประโยคนี้จะแตกต่างจากประโยคอื่นตรงที่จะใช้ในสถานการณ์ที่ไม่ได้เจอกันมานานระยะหนึ่ง อาจจะใช้กับ “Long time no see.” หรือ “It’s been a while (since we met).” ซึ่งหมายความว่า “ไม่ได้เจอกันนาน” ก็ได้

ยกตัวอย่างเช่น

Ben : Hey, Grace! Long time no see! / It’s been a while since we met! How have you been?

Ben : หวัดดีเกรซ! ไม่ได้เจอกันนานเลย เป็นไงบ้าง?

Grace : Hey, I’ve been busy with work but I’m good! How about you?

Grace : เฮ้ยยย หวัดดี! ก็ยุ่งๆ กับงานอ่ะ แต่สบายดี เธออ่ะ?

Ben : Not bad. Just chilling. I’m going back to the college next week.

Ben : ก็สบายดี ช่วงนี้ก็พักผ่อน อาทิตย์หน้าจะกลับไปเรียนละ

เราจะตอบคำถามเหล่านี้ได้ยังไงบ้าง?

ประโยคต่อไปนี้จะใช้ในการตอบคำถามที่ขึ้นต้นด้วย How เช่น

Fine / Not bad / Pretty good. = สบายดี

Wonderful! / Great! = รู้สึกดีสุดๆ

Terrible / Bad / Not so good. = แย่หรือไม่ค่อยโอเค

I’ve been better. = ใช้ตอบ How are you? / How are you doing? / How have you been? ถ้าให้แปลประโยคนี้ตรงๆ ก็จะแปลประมาณว่า “ก็ดีขึ้นแล้วล่ะ” เมื่อคนฟังได้ยินเข้าก็ต้องคิดว่าต้องเกิดอะไรขึ้นกับเราแน่ๆ ส่วนมากเขาก็จะถามกลับว่าเกิดอะไรขึ้น เช่น What’s wrong? หรือ What happened?

It’s going well. = ก็ดีนะ (จำไว้ว่าห้ามใช้กับ How are you? / How are you doing? / How have you been? เพราะมันจะฟังดูแปลกๆ)

เมื่อตอบคำถามแล้ว เราอาจต่อด้วยคำว่า Thank you. หรือ Thanks. เพื่อเป็นการขอบคุณ ซึ่งค่อนข้างเป็นทางการนิดนึง นอกจากนี้ เพื่อเป็นการแสดงความรู้สึกดีต่อผู้ฟังก็อาจจะถามกลับว่า And you? หรือ What about you? (แล้วเธอล่ะ) เพื่อแสดงความห่วงใยหรือเพื่อชวนคุย

ส่วน How do you do? นั้นคำตอบจะแตกต่างจากประโยคอื่นเป็นพิเศษ โดยเมื่อมีคนพูดHow do you do? กับเรา ก็ให้เราตอบกลับไปว่า How do you do? มันอาจจะฟังดูแปลกๆ นะคะ แต่นั่นคือสิ่งที่เขาพูดกัน สำหรับในปัจจุบันไม่ค่อยมีคนใช้ประโยคนี้กันแล้ว แต่รู้ไว้ก็ไม่เสียหลายเนอะ

เป็นไงกันบ้างคะ จะเห็นได้ว่าในภาษาอังกฤษนั้นมีคำทักทายมากมายที่เราสามารถเลือกไปใช้ได้ ต่อไปนี้การ ทักทายเป็นภาษาอังกฤษ ก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ Good morning. How are you? อีกต่อไป อย่าลืมว่าการฝึกภาษาอังกฤษให้ได้ผลจริง ต้องใช้เวลาและนำไปใช้อย่างจริงจัง แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้านะคะ

นางสาวสุภิชา ฤทธิวงศ์ 595161030010

Credits:

Created with images by derwiki - "london parliament england"

Made with Adobe Slate

Make your words and images move.

Get Slate

Report Abuse

If you feel that this video content violates the Adobe Terms of Use, you may report this content by filling out this quick form.

To report a Copyright Violation, please follow Section 17 in the Terms of Use.